ถั่วฝักยาวข้างบ้านกับวันวานยังหวานอยู่
ตอนเด็ก ๆ ผู้เขียนใช้เวลาช่วงกลางวันอยู่กับย่า เพราะพ่อกับแม่ออกต้องออกไปทำนาตั้งแต่เช้า ตอนเช้าของทุกวัน พ่อกับแม่ก็จะเอาไปส่งไว้ที่บ้านย่า ตอนเย็นกลับค่ำก็มารับกลับบ้าน เพราะฉะนั้นอาหาร 3 มื้อของแต่ละวันก็จะได้กินฝีมือย่าทั้งหมด และย่าก็ทำอาหารอร่อยที่สุดในสามโลก
ย่าเป็นคนขยันไม่ชอบนิ่ง ชอบทำนู่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา ย่าชอบปลูกผักไว้ข้างบ้าน ส่วนใหญ่ผักที่ปลูกก็จะเป็นผักสวนครัว พริก มะเขือ กะเพรา โหระพา ข่า ตะไคร้ บวบและถั่วฝักยาว
วันไหนที่กินข้าวกับน้ำพริกกะปิ ผู้เขียนชอบตักข้าวใส่ชามใส่น้ำพริกลงไป แล้วถือชามข้าว เดินไปเก็บผักข้างบ้านของย่า เก็บไปกินไป ผักที่เก็บกินจากต้นแบบนี้คืออร่อยหวานกรอบ
หนึ่งในเมนูที่ย่าชอบทำให้กินตอนนั้นคือ “ผัดถั่วฝักยาวใส่หมู” ซึ่งบางครั้งก็จะเป็นหมูสับบ้าง หมูชิ้นบ้าง ย่ามักจะหั่นหมูเป็นชิ้นใหญ่ ๆ แล้วรวนจนสุกดี ใส่ไว้ในหม้อกับน้ำมันหมู สมัยนั้นยังไม่มีตู้เย็น วิธีนี้จะช่วยเก็บรักษาเนื้อหมูไว้ทำกับข้าวได้นานขึ้น เวลาจะเอาออกมาผัด ย่าก็จะเอาออกมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ อีกที แต่ถ้าวันไหนมีหมูสด ย่าก็จะเอามาสับกับมีดเล่มใหญ่บนเขียงไม้ จนกลายเป็นหมูสับ
ย่ามักจะเริ่มจากจุดไฟในเตาถ่าน หั่นถั่วฝักยาวที่เพิ่งเก็บมาใหม่ ๆ ย่าชอบหั่นแฉลบ ไม่หั่นเป็นท่อน ย่าบอกว่าหั่นแบบนี้ ใช้เวลาผัดน้อยกว่า ได้ถั่วที่ผัดเสร็จแล้วก็ยังคงกรอบอร่อย หั่นถั่วฝักยาวเสร็จแล้วก็มาจัดการเรื่องหมูต่อ จากนั้นก็ลงมือโขลกกระเทียมในครกเสียงดังโป๊กเป๊ก ใช้กระทะเหล็กเก่า ๆ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปี ใส่น้ำมันหมูที่เจียวไว้เองลงไป พอร้อนก็ใส่กระเทียมที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม แล้วตามด้วยหมู ย่าชอบใช้หมูที่มีมันปนเล็กน้อย จะได้ไม่แห้งจนเกินไป ผัดจนหมูสุกดี แล้วจึงใส่ถั่วฝักยาวที่หั่นเฉียงลงไป ย่าจะปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลนิดหน่อย ผัดเร็ว ๆ บนไฟแรง กลิ่นหอมลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน
เครื่องปรุงในครัวของย่ามีน้อยมาก สมัยนั้นซีอิ๊วขาวก็ไม่มี จำได้ว่าย่าจะมีแค่น้ำปลา น้ำตาล เกลือและกะปิ แต่ก็งงนะเพราะกับข้าวของย่าคืออร่อยทุกจาน
พอยกลงจากเตา ย่าจะตักใส่จานสังกะสีขอบสีฟ้า แล้วเรียกให้ผู้เขียนมากินข้าว เมนูนี้กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ที่เพิ่งหุงเสร็จใหม่ ๆ มันคือความสุขที่เรียบง่ายและอิ่มเอมอย่างที่สุด
ในวัยเด็ก ผู้เขียนไม่เคยรู้สึกเบื่อกับเมนูนี้เลย อาจเป็นเพราะมันมีรสชาติครบ ทั้งเค็ม หวานนิด ๆ และความกรุบกรอบของถั่วฝักยาวที่ยังสุกไม่เกินไป กลายเป็นรสชาติที่ประทับใจอยู่ในความทรงจำจนถึงวันนี้
ตอนนี้ย่าจากไปนานแล้ว และบ้านหลังนั้นก็ไม่มีสวนผักเล็ก ๆ อีกต่อไป แต่ผู้เขียนยังคงจำรสชาติของ “ผัดถั่วฝักยาวใส่หมู” ได้อย่างชัดเจน ทุกครั้งที่ทำเมนูนี้กินเอง ความทรงจำในวัยเด็กกับย่าจะกลับมาเสมอ
แม้รสชาติที่ทำเองไม่เหมือนของย่าเลยเสียทีเดียว อาจจะเพราะถั่วฝักยาวไม่ได้สดเหมือนที่ย่าปลูกเอง หรือหมูสับที่ย่าสับเอง แต่กลิ่นหอมของกระเทียมที่เจียวในน้ำมัน และเสียงฉ่าเบา ๆ ตอนถั่วฝักยาวกระทบกระทะ จะทำให้ภาพของย่าในครัวหลังบ้านผุดขึ้นมาในใจเสมอ
อาหารจานนี้ไม่ใช่เพียงแค่อาหารจานหนึ่งสำหรับผู้เขียน แต่มันคือความทรงจำ ความรัก ความใส่ใจ และความเรียบง่ายของชีวิตในวัยเด็กที่ยังคงชัดเจนอยู่ในใจจนถึงวันนี้
บางครั้ง ความสุขในชีวิตก็อาจจะซ่อนอยู่ในจานอาหารธรรมดา ๆ จานหนึ่ง — จานที่ทำด้วยมือของคนที่เรารัก และรักเรา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น