เช้าวันอาทิตย์ดี ๆ กับแก๊งลูกกวาด
เช้าวันอาทิตย์มีนัดกับแก๊งลูกกวาดที่สวนเบญจกิติเหมือนเช่นเคย กลายเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์กันไปแล้วสำหรับแก๊งนี้ สัปดาห์นี้เหลือสมาชิกกันแค่ 3 คน เพราะสมาชิกน้องเล็กของเราไปทำธุระที่ต่างประเทศ
แผนการออกกำลังกายของพวกเราสัปดาห์นี้คือ ฝึกโยคะกันเอง 1.30 ชั่วโมง จากนั้นจะไปจอยกับกลุ่มออกกำลังกายที่สวน ซึ่งกลุ่มนี้เขาเล่น HIIT กันเป็นประจำทุกวันอาทิตย์เหมือนกัน
ผู้เขียนจองรถไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งแต่วันเสาร์ นัดแนะเวลาเรียบร้อย ออกเดินทางกันตี 5:30 เพื่อที่จะไปถึงสวนตอน 6 โมงเช้า เตรียมน้ำดื่ม กาแฟ Overnight oats ติดกระเป๋าไปด้วย คิดว่าต้องกินก่อน เพราะออกกำลังกายกันหลายชั่วโมง นอกจากนั้นก็เตรียมเสื่อโยคะผืนบาง เชือกสำหรับกระโดด เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน 1 ชุด ผ้าขนหนู ทิชชู่เปียก
พอไปถึงสวนสมาชิกมากันพร้อมแล้ว สัปดาห์นี้รถเยอะมาก เต็มที่จอดรถไปหมด พวกพี่ ๆ เขาเลยรีบมา เพราะกลัวหาที่จอดไม่ได้ ถึงจุดนัดพบได้ไม่ถึง 5 นาที ฝนก็เทลงมา ลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตากันเลยทีเดียว เราเลยต้องหลบฝนกันในศาลา ซึ่งคนวิ่งมาหลบฝนกันอย่างล้นหลาม
ฝนตก ๆ หยุด ๆ อยู่นานพอสมควร ซึ่งทำอะไรกันมากไม่ได้เพราะคนค่อนข้างเยอะ เลยนั่งกินกาแฟ กิน Overnight oats ที่เตรียมมา สอนพี่ ๆ Push up กับม้านั่ง กระโดดเชือกกันเล็กน้อย ที่เหลือก็คือเม้าท์มอยกันไป
กว่าฝนจะหยุดให้พอที่จะออกศาลาได้ก็กินเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง แผนที่วางไว้ล่มลงอย่างไม่เป็นท่า เลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ ด้วยการเดินไปขอเจ้าหน้าที่ใช้สถานที่ในอาคาร แล้วฝึกโยคะกันอย่างเดียว ซึ่งระหว่างที่ฝึกกันอยู่ในอาคารนั้น ฝนก็ยังคงเทลงมาอย่างต่อเนื่อง หนักบ้าง เบาบ้าง ฝึกกันไป ฟังเสียงสายฝนที่เทลงมากระทบหลังคากันไป ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง
หลังจากฝึกกันเสร็จ ฝนหยุดตกก็ชวนกันไปเดินเล่นในสวน ดูนู่น ดีนี่ เดินไปเจอน้องผู้ชายคนหนึ่ง กำลังถ่ายทำคอนเทนต์กระโดดเชือก คุ้นหน้าน้องเขามาก แต่นึกไม่ออกว่าเขาคือใคร เลยบอกน้องเขาว่า ที่คุณหน้าน้องมาก น่าจะติดตามน้องในโซเชียลมีเดียช่องทางไหนสักช่องทางแหละ น้องก็เลยบอกว่าน่าจะเป็น TikTok เพราะเขาทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องวิ่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าน้องเขาคือใคร
จบจากสวนเบญจกิติก็ชวนกันไปตลาด Farmer's Market ซึ่งจัดที่ K Village สุขุมวิทซอย 26 เดือนละ 2 ครั้ง จัดเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ สัปดาห์เว้นสัปดาห์ เมื่อพวกเราไปถึง ร้านค้าส่วนใหญ่ยังจัดร้านไม่เสร็จ ก็เลยเดินดู ๆ กันหนึ่งรอบ มีของที่อยากได้หลายอย่างเหมือนกัน ข้าวสารเอย ผักสดเอย มีร้านขนมไทยน่าสนใจมากทีเดียว แต่ก็นั่นแหละ เดือนนี้ยังคงอยู่ในคอร์ส The Tribe ของโค้ชเอิน ซึ่งเป็นคอร์สโภชนาการ ยังคงต้องควบคุมอาหารการกินอยู่ เลยต้องอดใจไว้ก่อน
เดินไปซื้อข้าวสาร ได้มา 3 กิโลกรัม ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวซ้อมมือหอมมะลิ ข้าวซ้อมมือไรซ์เบอรี่ วางแผนไว้ว่าจะเอามาผสมกันแล้วหุง สีต้องออกมาสวยแน่นอน นอกจากนั้นก็ได้ผักสดมาอีก 4 อย่าง ปวยเล้ง เบบี้คอส แตงกวาญี่ปุ่น 3 อย่างนี้รวมกัน 100 บาท เขาขายแพ็คละ 35 บาท 3 แพ็ค 100 ได้มะเขือม่วงลูกยักษ์มา 1 ลูก ตั้งใจจะเอามาอบรวมกับพริกหวาน เวลาซื้อผัก ผู้เขียนคิดเมนูอาหารไปด้วยตลอดเลย ไอเดียบรรเจิดเหลือเกิน เรื่องกินเนี่ย ใครเป็นเหมือนกันบ้าง แล้วก็ได้เลม่อนมาอีกครึ่งกิโลกรัม 70 บาท อันนี้ตั้งใจจะเอามาทำเค้กให้เด็ก ๆ ที่บ้าน เป็น Lemon Cake Raspberry เห็นมั้ยเห็นวัตถุดิบปุ๊บ เมนูมาปั๊บ
ระหว่างที่ซื้อของ พวกพี่ ๆ ก็ชวนว่าซื้ออะไรมานั่งกินกัน เพื่อที่จะรอร้านที่ยังไม่เปิด เผื่อได้ซื้อของเพิ่ม พอถึงตรงนี้รู้เลยว่างานยาก หาของที่กินได้ลำบากเลย ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ายังอยู่ในคอร์สโภชนาการ ต้องควบคุมการกิน เดินวนไปเวียนมาหลายรอบ ก็ได้หมูย่างมา 1 ขีด บอกพ่อค้าว่าไม่ต้องใส่น้ำจิ้ม เลือกเอาเฉพาะเนื้อไม่ติดมัน
ส่วนพวกพี่ ๆ เขาซื้อไส้กรอกเยอรมันกันมาซึ่งน่ากินมาก ในชุดมีแตงกวาดอง Sauerkraut แถมยังซื้อขนมจีบ ข้าวเหนียวหมูทอดมากินยั่วกันอีก แต่ก็นะ ของกินแค่นี้ทำอะไรความตั้งใจของผู้เขียนไม่ได้หรอก
ระหว่างที่นั่งกิน เม้าท์มอยกันอยู่นั้น สายตาพวกเราก็พลันหันไปเห็นดาราสาวท่านหนึ่ง "ป้าเจี๊ยบของเจ้เกล" นั่นเอง ป้าเจี๊ยบน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ยกมื้อไหว้ทุกคน พวกเราทักถามว่าน้องเกลอยู่ไหน คำตอบที่ได้คือ ป้าเจี๊ยบมาคนเดียว เพราะมาซื้อของเข้าวบ้าน ถ้าน้องเกลมาด้วยจะถือของลำบาก พวกเราเลยขอถ่ายรูปกับป้าเจี๊ยบซะเลย หัวใจพองโตนะ เวลาที่เจอคนมีชื่อเสียงที่เป็นคนน่ารักแบบนี้
ถัดจากป้าเจี๊ยบ ก็เจอกับรุ่นน้องที่เรียนคอร์สครูโยคะด้วยกันอีก เลยเรียกมานั่งคุยกัน ซึ่งน้องคนนี้ออกกำลังกายเยอะมาก ไปออกแทบทุกที่ในกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ ได้แรงบันดาลใจไปอีก
กว่าจะแยกย้ายกันกลับบ้านก็ปาเข้าไป 10 โมงกว่า ตอนแรกจะเรียกรถกลับเอง เพราะคิดว่าน่าจะเร็วกว่าการขึ้นรถไฟฟ้าแล้วต่อรถตุ๊กตุ๊กเข้าบ้าน เรียกไป 2 รอบ ได้รถแล้ว แต่ถูกคนขับกดยกเลิก 2 ครั้งติดกัน เลยขอติดรถพี่เขามาลงตรงสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อเหมือนเดิม ด้วยความที่ซื้อของมาค่อนข้างเยอะ ก็เลยฝากเสื่อโยคะไว้ในรถของพี่เขา วันเสาร์ไปเรียนค่อยเอากลับมาก็แล้วกัน
เป็นอีก 1 เช้าดี ๆ กับแก๊งนี้ พวกเรารู้จักกันเพราะเรียนคอร์สครูโยคะด้วยกัน จากแค่เรียนด้วยกันทุกวันเสาร์ ก็เริ่มนัดกันไปฝึกเองในสวนวันอาทิตย์เพิ่ม จากนั้นก็มีชวนกันไปวิ่งบ้าง ชวนกันฝึกกระโดดเชือกบ้าง กิจกรรมของพวกเราเริ่มหลากหลายขึ้น
การออกกำลังกายเป็นอะไรที่ดีอยู่แล้ว แต่การที่มีเพื่อน มีแก๊งที่ชอบทำอะไรเหมือน ๆ กัน ชวนกันทำกิจกรรมนู่นนี่ ทำให้การออกกำลังกายสนุกขึ้นมาก ได้แรงบันดาลใจเพิ่ม มีความสุขมากขึ้นด้วย
สุดท้ายขอบคุณสมาชิกแก๊งลูกกวาดทุกคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้กัน และหวังว่า เราจะเป็นเพื่อนออกกำลังกายกันไปแบบนี้นาน ๆ










 
 
 
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น