ปฏิบัติการเพาะหน่อเหรียงของบินหลาพลัดถิ่น





โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา 🎤 โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา 🎤 แม่น้ำภูเขา ทะเลกว้างไกล อย่าไปไหนกลับใต้บ้านเรา 🎵 ครวญเพลงของวงแฮมเมอร์มาซะขนาดนี้ ก็คงคาดเดากันได้ไม่ยาก ว่าพื้นเพของผู้เขียน คือ ดินแดนด้ามขวาน ผู้เขียนเป็นคนใต้โดยกำเนิด แต่เป็นบินหลาพลัดถิ่นที่มาหากินอยู่ในเมืองบางกอก ดินแดนศิวิไลซ์ แต่เลือดชาวใต้นั้นเข้มข้นนัก ผู้เขียนภาคภูมิใจในความเป็นคนใต้ของตัวเองมาก  พูดกลางก็ยังคงติดสำเนียงทองแดง วันไหนได้เจอคนภาคเดียวกัน ก็แหลงใต้กันเทือน (ดังลั่น) คนใต้ด้วยกันจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี การได้แหลงใต้มันได้แรงอก 


ด้วยความที่ย้ายถิ่นฐานมาทำมาหากินในเมือง พืชผักพื้นเมืองของภาคใต้เลยไม่มีให้กินมากนัก ถึงมีก็ราคาค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นสะตอ ใบเหลียง ลูกเนียง หรือหน่อเหรียง ผู้เขียนเคยเห็นใบเหลียงกำละ 35 บาท ขนาดเล็กกว่ากำละ 5 บาทที่ภาคใต้ เคยเจอหน่อเหรียงขีดละ 60 บาท นั่นหมายความว่า หน่อเหรียงกิโลกรัมละ 600 บาท คิดคำนวณในใจ พร้อมยกมือขึ้นทาบอกเบา ๆ กลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วเดินผ่านไปอย่างเงียบสงบ 




"สะตอมีหาง" เป็นชื่อที่น้องคนนึงเรียกหน่อเหรียง หรือที่บางคนเรียกว่าลูกเหรียง ทุกครั้งที่กินแกงหน่อเหรียงก็จะนึกถึงน้องคนนี้ ชอบชื่อนี้ "สะตอมีหาง" ชอบในความช่างคิด ช่างเรียกของนาง

เหรียงเป็นไม้ยืนต้น มีลักษณะคล้ายกับสะตอมาก การออกดอก ออกฝักก็เหมือนกันกับสะตอ แต่เมล็ดจะเล็กแบนกว่าสะตอ ฝักแก่จะมีสีดำและแข็ง เมล็ดเหรียงสีดำเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในฝักแก่นี่แหละ ที่เรานำมาเพาะเป็นหน่อเหรียง หรือ ลูกเหรียง เอาไว้ใส่แกงเนื้อ หรอยจังฮู้ 




ในเมื่อหน่อเหรียงราคาสูง เลยหาซื้อเมล็ดเพื่อมาเพาะเอง Shopee เป็นที่พึ่งยามยาก มีทุกสิ่งให้เลือกสรร  Search หาไม่กี่อึดใจก็เจอ มีขายอยู่หลายร้านด้วยกัน ตัดสินใจกดสั่งซื้อจากร้าน Aunna Shop ในราคา 75 บาท ขนาด 500 กรัม ผู้เขียนชำระเงินผ่าน Airpay Wallet เลยได้ Code ส่งฟรี ประหยัดไปอีก 

วิธีการเพาะหน่อเหรียงไม่ยุ่งยากอะไร ตอนเด็ก ๆ ผู้เขียนเคยช่วยย่าเพาะแบบลงดิน แต่รอบนี้จะเพาะแบบห่อผ้าในตะกร้า ไม่ใช้ดิน วิธีการใกล้เคียงการเพาะถั่วงอก 
  • ก่อนอื่นต้องตัดปลายด้านที่มีสีน้ำตาลและมีรอยบุ๋มของเมล็ดออก ขั้นตอนนี้ใช้กรรไกรตัดเล็บตัด สะดวกที่สุด  ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้รากจะงอกออกมาได้ยากและใช้เวลานาน เพราะเปลือกของเมล็ดค่อนข้างแข็ง




  • จากนั้นนำเมล็ดไปแช่น้ำ ทิ้งไว้ 1 คืน 




  • เช้าวันรุ่งขึ้น นำเมล็ดมาห่อด้วยผ้า วางลงในตะกร้าแล้วรดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่ร่ม และรดน้ำซ้ำอีกในตอนเย็น ทำแบบนี้จนครบ 4-5 วัน 



หลังจากห่อผ้ามา 1 คืน เริ่มโผล่ออกมาแล้วค่ะ



หลังจากห่อผ้าและรดน้ำเช้า เย็น มา 3 คืน รากก็ยาวประมาณนี้ 



หลังจากคืนที่ 4 พร้อมกินแล้วค่ะ 



แกะเปลือกเมล็ดออกล้างทำความสะอาดเรียบร้อยพร้อมแกง

เมนูมื้อเที่ยงหรอย ๆ ของบ้านนี้ แกงเนื้อฟักทองใส่หน่อเหรียง และแน่นอนว่าพริกแกงที่ใช้เป็นพริกแกงใต้อันเผ็ดร้อนถึงใจ ใช้ฟักทองญี่ปุ่นเนื้อเเน่น หวาน มัน เคี่ยวจนเนื้อนุ่ม ฟักทองเปื่อย ตบท้ายด้วยหน่อเหรียงสด ๆ คน 2-3 ที ยกลงจากเตา หน่อเหรียงจะกรอบอร่อย ถ้าสุกมากไปจะเหนียว




ตักข้าวมาล้อมวงกันได้เลยค่ะ มื้อนี้ลืมอ้วนกันไปเลย 




เป็นไงกันบ้างคะ วิธีการเพาะหน่อเหรียงง่าย ๆ สไตล์สาวใต้พลัดถิ่น ที่ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำได้ ใครที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาว อยากจะซื้อเมล็ดไปไว้เพาะกินในยามคิดถึงบ้าน แนะนำให้ใช้เป็นน้ำอุ่น ๆ แทนน้ำอุณหภูมิห้อง จะได้ผลดีกว่า 

ติดตามผลงานอื่น ๆ ของผู้เขียนได้ที่ 





Pantip : FitFoodFun

Trueid : FitFoodFun


ติดต่อพูดคุยกันได้ที่



Line : CockneyAnn




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีเผาเตาอบ ก่อนการใช้งานครั้งแรก

รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Simplus

หุงข้าวอย่างไรถ้าไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้า